สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Diecast โมเดล

ดูสินค้าในตะกร้า แจ้งการชำระเงินออนไลน์

ARTICLE

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Diecast โมเดล

โมเดลขนาด 1:12 ที่โชว์รายละเอียดภายในได้อย่างชัดเจน

ขนาดที่แตกต่างในโมเดลรถคืออะไร?

โดยส่วนมาก โมเดลรถแต่ละรุ่นจะผลิตมาในขนาดที่นิยมมากที่สุดคือ 1:43 1:24 และ 1:18 (จากเล็กไปใหญ่) โมเดลขนาด 1:43 หมายความว่าขนาดของมิติจะลดลงจากขนาดรถจริงถึง 1/43 เท่า ดังนั้นถ้าความยาวรถคือ5เมตรในชีวิตจริง รูปแบบความยาวที่น่าจะเป็นคือ: 1:43 = 11.63 ซม
หรืออีกตัวอย่างคือในขนาดอัตราส่วน 1:18 ทุกๆ 18ซม จากรถจริงจะเท่ากับ 1ซม ของโมเดลรถโดยประมาณ ส่วนขนาดอื่นๆอย่าง 1:12 อาจมีให้พบเห็นบ้างในรถหายากที่เป็นของนักสะสมจริงๆ ซึ่งจะมาพร้อมกับราคาที่สูงหลิ้วหลายหมื่นเช่นกัน และก็มีอย่างขนาด 1:64 ที่มีอยู่เยอะแยะทั่วไป โมเดลขนาดนี้ส่วนมากจะไม่สามารถแสดงรายละเอียดได้มากพอจนเข้าข่ายเป็นรถของเล่นเสียมากกว่า แต่ส่วนความเป็นมาเป็นไปว่าทำไมถึงเล่นกันอยู่ในช่วงขนาดเท่านี้ ทางเราก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เรื่องนี้อาจจะต้องรบกวนผู้รู้ชี้แจงเพิ่มเติมข้างล่างให้เราๆเข้าใจกันครับ

สองวิธีการผลิตที่พบเห็นมากที่สุดในวงการโมเดลคือ โมเดลหล่อจากเหล็ก diecast (รุ่นนี้มักจะประกอบจากชิ้นส่วนหลายๆชิ้นมาต่อกัน) และหล่อจากเรซิน(รุ่นนี้จะผลิตจากแม่พิมพ์ยางสังเคราะห์) โมเดลที่มีขนาดอัตราส่วนที่ใหญ่มักจะผลิตโดยเหล็ก diecast มากกว่า แต่หลังๆงานที่ถูกหล่อด้วยเรซินก็มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย อันเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่านั้นเอง รุ่นที่หล่อด้วยเรซิ่นสามารถให้รายละเอียดและทำให้สวยงามได้ระดับหนึ่ง รายละเอียดภายนอกและสิ่งที่คุณสามารถมองผ่านหน้าต่างเข้าไป สามารถทำให้ดูดีได้ด้วยการลงสีเองที่ตัวโมเดล แต่รูปแบบดังกล่าวส่วนมากจะไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปข้างในได้ หรือในส่วนของหน้าต่างอาจเป็นรูเข้าไปแทนที่จะเป็นกระจก ในส่วนของโมเดลหล่อเหล็ก diecast นั้น มักเป็นมาตรฐานมาว่าจะต้องมีประตู ฝากระโปรงหน้าและกระโปรงหลังที่สามารถเปิดได้ ซึ่งส่งผลให้เราสามารถมองเห็นรายละเอียดภายในได้มากขึ้น ดั่งนั้นจึงทำให้การผลิตแบบ diecast นั้นมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารูปแบบอื่นๆ แต่ในส่วนของวัสดุที่ใช้ผลิต ยังไงๆรถที่เราใช้ก็ทำมาจากเหล็ก เพราะฉนั้น วัสดุเหล็ก diecast ยังไงๆก็ให้ความรู้สึกที่เหมือนจริงกว่า ใช่ไหมละครับ

อะไรคือปัจจัยที่กำหนดมูลค่าของโมเดล diecast ?

โมเดลขนาด 1:64 ที่มีรายละเอียดน้อยเกินไป

แน่นอนว่าแต่ละรุ่นแต่ละสีมีต้นทุนต่างกันนะครับ ร้านเราเองก็ยังขายราคาไม่เท่ากันเลย ^^ แต่คร่าวๆความเป็นมาที่แตกต่างน่าจะมีประมาณนี้

ความหายาก: การผลิตของโมเดลรุ่นนี้มีทั้งหมดกี่คัน? ถ้าจำนวนน้อยโดยมีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงก็จะยิ่งเพิ่มค่าการผลิตที่สูงขึ้น ตีง่ายๆจากค่าหล่อแบบแต่ละชิ้นว่าต้องมีมูลค่าเท่าไหรเมื่อนำมันมากระจายกับยอดขายของโมเดลรุ่นนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปรุ่นที่มีการผลิตน้อยมุลค่าความหายากของมันก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
รายละเอียด: ส่วนประกอบแต่ละชิ้นมีรูปแบบลักษณะคล้ายกับรถจริงมากแค่ไหน? ในส่วนของรายละเอียดส่วนมากมักจะเน้นที่จำนวนของชิ้นส่วนและความสร้างสรรค์ในการเลือกวัสดุอื่นๆนอกจากโลหะที่มาประกอบเข้าที่ตัวรถ อีกส่วนที่สำคัญคือความแม่นยำถูกต้อง ความถูกต้องหมายถึงโมเดลนั้นมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับรถจริงมากเพียงใด
การใข้งาน: ส่วนไหนบ้างที่สามารถเปิดออกมาเผยให้เห็นชิ้นส่วนภายในได้มากขึ้น เช่นเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่มีความสมจริงตามแบบจำลอง ส่วนปีกย่อยเล็กน้อยๆอย่างกระจกมองข้างพับได้ ฝาถังน้ำมันเปิดได้ ล้วนมีต้นทุนในการผลิตทั้งสิ้น
การเก็บงาน: การพัฒนาด้านวิศวกรรมสามารถเอาชนะข้อจำกัดของการลดขนาดการผลิตของแต่ละองค์ประกอบได้ ยกตัวอย่างเช่นน๊อตขนาดหนึ่งนิ้วบนรถคุณอาจผลิตได้ไม่ยาก แต่ลองคิดดูว่ามันจะลำบากเพียงใดหากจะต้องเป็นขนาด1/18ของนิ้วบนโมเดลเล็กๆเท่าฝ่ามือ คุณภาพอีกส่วนที่สามารถดูได้คือท่าทางของรถ - ซึ่งหมายความว่าเวลานำรถมาวางบนพื้นเรียบ ระดับสูงต่ำของโช๊คสมดุลกันหรือไม่ เอียงซ้ายเอียงขวาหรือไม่ คุณภาพของสีมีความเงางามดั่งรถจริงหรือไม่
สภาพ: โมเดลที่ได้อยู่ในสภาพเดิมที่ออกจากโรงงานมาหรือป่าว ถ้าซื้อจากร้านค้าปลีกที่เชื่อถือได้ สิ่งนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวล แต่ถ้าหากสั่งซื้อจากสินค้ามือสอง จุดนี้อาจจะต้องเช็คอย่างละเอียดและถี่ถ้วน
ขนาด: ขนาดและน้ำหนักก็ส่งผลถึงมูลค่าได้อีกอย่างหนึ่ง แต่ส่วนมากมักจะเป็นปัจจัยรองจากส่วนอื่นๆ แบบจำลองขนาด 1:43 อาจมีมูลค่ามากกว่ารุ่น 1:12 ได้ถ้ามันเป็นรุ่นที่หายากจริงและมีรายละเอียดที่ดีกว่า

โมเดล diecast ที่ได้ลิขสิทธิ์การผลิตคืออะไร?

โมเดลรถที่ผลิตนั้นได้รับลิขสิทธิ์การผลิตอย่างถูกต้องจากค่ายรถนั้นๆหรือไม่? ในการย่อส่วนของการผลิตลงมาในขนาดที่เล็กลง ความแม่นยำของขนาดในแต่ละส่วนนั้นสำคัญอย่างยิ่ง การได้รับลิขสิทธิ์การผลิตที่ถูกต้องหมายถึงได้รับข้อมูลโดยตรงจากแบบพิมพ์เขียวและได้ใช้สีรถเดิมที่ตรงตามสเปคของโรงงานผู้ผลิตของค่ายรถนั้นๆ ซึ่งแน่นอน ความเหมือนจริงจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงที่สุด เพราะคงไม่มีค่ายรถไหนที่จ้างผลิตแล้วอยากให้โมเดลออกมาดูไม่คล้ายกับรถที่ตัวเองจำหน่ายหรอก จริงไหมล่ะครับ แต่ในส่วนนี้ก็จะต้องยอมรับว่าต้นทุนบางส่วนก็จะต้องเสียไปกับค่าแบรนด์ของเจ้าของค่ายรถเจ้านั้นๆด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟังนะครับ มีอะไรก็แชร์ๆให้กันฟังบ้าง หวังว่าทุกท่านที่หาซื้อโมเดลอยู่จะได้มีความเข้าใจอะไรๆมากขึ้น ขอบคุณที่อ่านครับ

mycarmodel

ARTICLE

- การใช้งานโมเดลขั้นพื้นฐาน

- สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Diecast โมเดล

- ทำไมต้อง mycarmodel?

ดูทั้งหมด

ความคิดเห็นที่ 1

โฆษณาจาก sponser: